ระเบียบกรมการจัดงาน
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาติการทำงานของคนต่างด้วย   พ.ศ.๒๕๔๗

เพื่อให้การพิจารณาอนุญาติการทำงานของคนต่างด้าวตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๒๑ เป็นไปโดยรอบคอบตรงตามเจตนารมณ์ของกฏหมายสมควรกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาติการทำงานคนต่างด้าว
                               อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติระ เบียบบริหารราชการแผ่นดิน (แฉบับที่ ๕ ) พ.ศ. ๒๕๔๕ อธิบดีกรมการจัดหางานจึงวางระเบียบไว้   ดังต่อไปนี้
                               ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ ระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์การพิจารณษอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๔๗ ”
                               ข้อ ๒   ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๗ เป็นต้นไป
                               ข้อ ๓   ให้ยกเลิก
                               ( ๑)   ระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว   พ.ศ. ๒๕๔๕ ลงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
                               ( ๒)   ระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๕ ลงวันที่   ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
                               ( ๓)   ระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๓)   พ.ศ.๒๕๔๖   ลงวันที่ ๕ กุมภาพันธ์   พ.ศ.๒๕๔๖
                               ข้อ   ๔ การออกใบอนุญาตให้กับคนต่างด้าวตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ ให้พิจารณาอนุญาตตามความจำเป็นและความเหมาะสมโดยคำนึงถึง
                               ( ๑)   ความมั่นคงภานฃยในราชอาณาจักรด้านการเมือง   ศาสนา   เศรษฐกิจและสังคม
                               ( ๒)   การปกป้องมิให้คนต่างด้าวเข้ามาแย่งอาชีพที่คนไทยมีความรู้ความสามารถที่จะทำได้   และมีอำนาจเพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานภายในราชอาณาจักร
                               ( ๓)   ประโยชน์จากการอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในตำแหน่งงานนนั้นก่อให้เกิดการนำเงินตราตางประเทศเข้ามาลงทุนหรือใช้จายในประเทศจำนวนมาก   ก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทยจำนวนมาก หรือเป็นตำแหน่งที่ต้องใช้ความรู้ความชำนาญในวิทยาการสมัยที่เป็นประโยชน์ต่อการกัมนาเศรษฐกิจของประเทศ และมีการถ่ายทอดให้คนไทย                                                            

                               ( ๔)   การพัฒนาทักาะฝีมือที่คนไทยจะได้รับจากการที่คนต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานได้ถ่ายทอดความรู้   ความเข้าใจ   วิธีการ   รายละเอียดที่เกี่ยวข้องของเครื่องจักร   เครื่องมือ   และความรู้ความชำนาญในงานวิจัยการสมัยใหม่ให้แก่คนไทยในงานนั้น
                               ( ๕)   หลักมนุษยธรรม
                               ข้อ   ๕   การพิจารณาออกใบอนุญาตตามข้อ ๔ ให้อนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์   ดังต่อไปนี้
                               ( ๑)   คนต่างด้าวเข้ามาปฏิบัติงานในสถาบันการเงินในการกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือกระทรวงการคลัง   หรือหนวยงานของรัฐซึ่งกำกับดูแลสถาบันการเงิน   โดยมีหนังสือรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทย   หรือระทรวงการคลัง   หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งกำกับดูแลสถาบันการเงิน   ให้อนุญาตตามจำนวนที่กำหนดไว้ในหนังสือรับรอง
                               ( ๒)   คนต่างด้าวตามที่มีหนังสือรับรองจากราชการส่วนกลาง   ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น   รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชนตามกฏหมายว่าด้วยแงค์การมหาชน   ที่เกี่ยงข้องซึ่งระบุชื่อตำแหน่งงาน   และระยะเวลาการทำงานขงคนต่างด้าวนั้น
                               ( ๓)   คนต่างด้าวทำงานกับนายจ้างที่มีขนาดการลงทุนจากทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่าสองล้านบาท    โดยทุก ๆ สองล้านบาทให้อนุญาตได่ฃ้หนึ่งคน   หรือนายจ้างจดทะเบียนนิติบุคคลในต่างประเทศและเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยก่อนวันที่ ๓๐ ตุลาคม   พ.ศ.๒๕๔๕   ที่ไม่มีหลักฐานการนำเงินเข้ามาจากต่างประเทศให้พิจารณาจากขนาดของการลงทุนจากจำนวนเงินคงเหลือตามที่ปรากฏในรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีธนาคารย้อนหลังหกเดือน   จำนวนตั้งแต่สามล้านบาทขึ้นไป   โดยทุก ๆ ทสามล้านบามได้อนุญาตได้หนึ่งคน   เว้นแต่คนต่างด้าวมีคู่สมรสเป็นคนไทยซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมายและกินอยู่ร่วมกันฉันท์สามีภรรยาโดยเปิดเผย   ขนาดของการลงทุนตามที่กำหนดไว้ให้ลดลงกึ่งหนึ่ง   ทั้งนี้ให้อนุญาตได้ไม่เกินสิบคนเว้นแต่การพิจารณาอนุญาตตามความเหมาะสมในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
                               ( ก)   ทำงานกับนายจ้างที่ได้ชำระภาษีเงินได้ให้แก่รัฐในรอบปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าสามล้านบาท
                               ( ข)   ทำงานกับนายจ้างที่ดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศและนำเงินตรต่างประเทศเข้าประเทศไม่น้อยกว่าสามสิบล้านบาทขึ้นไปในปีที่ผ่านมา
                               ( ค)   ทำงานกับนายจ้างที่ดำเนินธุรกิจท่องเที่ยว   ซึ่งนำชาวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย   ไม่น้อยกว่าห้าพันคนในรอบปีที่ผ่านมา
                               ( ง)   ทำงานับนายจ้างที่มีการจ้างงานคนไทยไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยคน

                               ( ๔)   คนต่างด้าวทำงานกับนายจ้างที่มีขนาดของการลงทุนจากทุนจดทะเบียนชำระแล้วไม่ต่ำกว่าสองล้านบาท   หรือนายจ้างจดทะเบียนนิติบุคคลในต่างประเทศและเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยที่มีขนาดของการลงทุนจากเงินที่นำมาจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่าสามล้านยาท   ในลักษณะหนึ่งลักษณะใดดังต่อไปนี้มิให้นำข้อจำกัดในเรื่องจำนวนคนต่างด้าวตามความในข้อ   ๕   ( ๓)   มาใช้บังคับ
                               ( ก)   คนต่างด้าวทำงานที่ใช้เทคโนโลยีซึ่งคนไทยยังทำไม่ได้   หรือมีจำนวนไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดแรงงานภายในประเทศ   โดยให้มีการถ่ายทอดให้แก่คนไทยอย่างน้อยสองคน   ภายในระยะเวลาที่กำหนด
                               ( ข)   คนต่างด้าวทำงานโดยใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะทางเพื่อให้งานสำเร็จภายใต้โครงการที่มีระยะเวลากำหนดไว้แน่นอน
                               ( ๕)   คนต่างด้าวทำงานในมูลนิธิ   สมาคม   หรือองค์การอื่นที่มีวัตถุประสงค์ไม่แสวงหากำไรในทางเศรษฐกิจหรือเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนรวม   มิให้นำหลักเกณฑ์ในข้อ ๕(๓) มาใช้บังคับ
                               ( ๖)   คนต่างด้าวที่เข้ามาประจำสำนักงานผู้แทนนิติบุคคลต่างประเทศในธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ   ซึ่งเข้ามาให้คำแนะนำในด้านต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่ที่จำหน่ายแก่ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ใช้สินค้า   การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการใหม่ของสำนักงานใหญ่   และการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ทราบให้อนุญาตได้ไม่เกินสองคน   คนต่างด้าวที่เข้ามาหาแหล่งจัดซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่   การตรวจสอบและควบคุมคุณภาพและปริมาณของสินค้าที่สำนักงานใหญ่ซื้อหรือจ้างผลิตในประเทศไทยให้อนุญาตได้ไม่เกินห้าคน   เว้นแต่สำนักงานผู้แทนนั้นสามารถหาแหล่งจัดซื้อสินค้าหรือบริการในประเทศไทยมีมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการในรอบปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
                               ( ๗)   คนต่างด้าวที่เข้ามาประจำสำนักงานภูมิภาคของนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายของต่างประเทศและเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศอื่น   เพื่อให้บริการในด้านต่างๆ   ได้แก่   การติดต่อประสานงานและการกำกับการดำเนินงานของสาขาหรือบริษัทใรเครือที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันแทนสำนักงานใหญ่   การให้คำปรึกษาหรือบริการในการจัดการฝึกอบรมและพัฒนาบุคคล   การจัดการด้านการเงินและควบคุมการตลาดและการวางแผนส่งเสริมการขาย   การพัฒนาผลิตภัณฑ์   และการวิจัยพัฒนาโดยไม่มีรายได้จากการให้บริการนั้นและไม่มีอำนาจรับคำสั่งซื้อหรือเสนอขายหรือเจรจาทำธุรกิจกับบุคคลหรือนิติบุคคลในประเทศที่เข้าไปตั้ง   ทั้งนี้ โดยได้รับเงินค่าใช้จ่ายในสำนักงานจากสำนักงานใหญ่เท่านั้นให้อนุญาตได้ไม่เกินห้าคน   เว้นแต่สำนักงานภูมิภาคนั้นนำเงินเข้ามาใช้จ่ายในประเทศไทยในรอบปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าสิบล้านบาท

                               ข้อ   ๖   การพิจารราออกใบอนุญาตตามข้อ   ๔   ให้กับคนต่างด้าวซึ่งขออนุญาตทำงานกับนายจ้างที่เป็นบุคคลธรรมดาซึ่งมิใช่นายจ้างที่มีลักษณะตามข้อ   ๕   ให้อนุญาตได้ตามหลักเกณฑ์   ดังต่อไปนี้
                               ( ๑)   คนต่าางด้าวทำงานกับนายจ้างที่มีรายได้จากการประกอบกิจการในรอบปีที่ผ่านมาหรือปีปัจจุบันทุก ๆ เจ็ดแสนบาทให้อนุญาตได้หนึ่งคน   ทั้งนี้ไม่เกินสาทคน
                               ( ๒)   คนต่างด้าวทำงานกับนายจ้างที่ได้ชำระภาษีเงินได้ให้แก่รัฐในรอบปีที่ผ่านมาทุกๆห้าหมื่นบาทให้อนุญาตได้หนึ่งคน   ทั้งนี้ไม่เกินสามคน
                               ( ๓)   คนต่างด้าวทำงานกับนายจ้างที่มีการจ้างคนไทยทุกสี่คนให้อนุญาตได้หนึ่งคนทั้งนี้ไม่เกินสามคน
                                หลักเกณฑ์ตามความในวรรคหนึ่งให้ลดกึ้ฃ่งหนึ่งในกรณีที่คนต่างด้าวผู้ขอใบอนุญาตมีคู่สมรสเป็นคนไทยซึ่งจดทะเบียนสมรส   โดยถูกต้องตามกฏหมายและอยู่กินร่วมกันฉันท์สามีภรรยาโดยเปิดเผย
                                ข้อ   ๗   การพิจารณาอกใบอนุญาตตามข้อ   ๔   ให้กับคนต่างด้าวซึ่งขออนุญาตทำงานให้บริการทางกฏหมายหรืออรรถคดี   ให้อนุญาตได้ตามจำนวนที่คู่กรณีตกลงกันในงานดังต่อไปนี้
                               ( ๑)   งานปฏิบัติหน้าที่ให้อนุญาตโตตุลาการ
                               ( ๒)   งานว่าต่างแก้ต่างในชั้นอนุญาโตตุลาการ   ถ้ากฏหมายซึ่งใช้บังคับแก่ข้อพิพาทที่พิจารณาโดยอนุญาโตตุลาการนั้นมิใช่กฏหมายไทย   หรือเป็นกรณีที่ไม่ต้องขอบังคับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนั้นในราชอาณาจักรไทย
                               ข้อ   ๘   การพิจารณาอนุญาตนอกเหนือจากกรณีหรือหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบนี้   ให้เป็นอำนาจของอธิบดี
                               ข้อ   ๙   บรรดาคำขอที่เจ้าหน้าที่ได้รับไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ   ให้ปฏิบัติตามระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๔๕   ลงวันที่   ๒๒   พฤษภาคม   พ.ศ.๒๕๔๕   ระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕   ลงวันที่   ๑๑   กรกฎาคม   พ.ศ. ๒๕๔๕   และระเบียบกรมการจัดหางาน   ว่าด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการพิจารณาอนุญาตการทำงานของคนต่างด้าว(ฉบับที่ ๓ ) พ.ศ. ๒๕๔๖   ลงวันที่   ๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๔๖
                               ข้อ   ๑๐   ให้อธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้
                                                 ให้ไว้   ณ   วันที่   ๓๐   กันยายน   พ.ศ.๒๕๔๗

                                                ( นายจุฑาธวัช   อินทรสุขศรี)
                                                อธิบดีกรมการจัดหางาน